ประกาศความเป็นส่วนตัว

ประกาศความเป็นส่วนตัว
สำหรับลูกค้าและคู่สัญญา หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าและคู่สัญญา

บริษัท เจวีซีเคนวูด (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัทฯ”) มุ่งเน้นที่จะจัดหาผลิตภัณฑ์และให้บริการ หรือปฏิบัติตามสัญญาให้ดีที่สุดต่อลูกค้า และคู่สัญญา (“ท่าน”) ซึ่งไว้วางใจและเชื่อมั่นในการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ

ในการจัดหาผลิตภัณฑ์และให้บริการ หรือปฏิบัติตามสัญญา บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่าน (“รวมเรียกว่า ”ข้อมูลส่วนบุคคล”) ซึ่งบริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พ.ร.บ.ฯ”) และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบอื่น ๆ ที่จะประกาศใช้ภายใต้ พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่าน
ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ

1. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะเมื่อมีเหตุผลที่เหมาะสมในการดำเนินการ และ/หรือที่กฎหมายกำหนดให้กระทำการได้ ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลภายนอกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์หลักดังต่อไปนี้

  • 1.1 เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ทั้งก่อน หรือขณะที่บริษัทฯ จะเข้าทำสัญญาซื้อขาย หรือการบริการกับท่าน
  • 1.2 เพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือภาระข้อผูกพันตามกฎหมาย
  • 1.3 เพื่อการซื้อขาย การบริการ การทำธุรกรรม รวมถึงการประเมินความเสี่ยงในการลงทุนตามกระบวนการ กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่บังคับใช้
  • 1.4 เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน เรียกเก็บเงิน หรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์
    ทางบัญชี และการจัดการทางบัญชี การสอบบัญชีของบริษัท หรือกรณีการติดตามทวงหนี้
  • 1.5 เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงาน
    ในการซื้อขาย การบริการ หรือการจ้างตามสัญญา
  • 1.6 เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งภายในและภายนอก
  • 1.7 เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่บริษัทฯ
  • 1.8 เพื่อประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของบริษัทฯ ที่จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยยังคงคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านนั้นไม่เหนือไปกว่าประโยชน์ของบริษัทฯ
  • 1.9 เพื่อวัตถุประสงค์ใดวัตถุประสงค์หนึ่งโดยเฉพาะ ตามความยินยอมที่ท่านให้แก่บริษัทฯ ใน
    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

2. การเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น ซึ่งมีหลากหลายประเภท โดยประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ลักษณะของผลิตภัณฑ์ บริการ และ/หรือ ธุรกรรมที่ท่านทำกับบริษัทฯ

  • 2.1 แหล่งข้อมูลที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น
  • • เมื่อท่านซื้อ/ขายผลิตภัณฑ์ และ/หรือขอรับ/ให้บริการกับบริษัทฯ
  • • เมื่อท่านซื้อผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการใด ๆ ของบริษัทฯ ผ่านทางผู้แทนจำหน่ายหรือบุคคลภายนอก
  • • เมื่อท่านเข้าเป็นคู่สัญญกับบริษัทฯ ทั้งก่อน หรือขณะทำสัญญา
  • • การสนทนาระหว่างท่านกับบริษัทฯ รวมถึงบันทึกการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย อีเมล ไลน์ บันทึกข้อความ หรือวิธีการอื่นใด
  • • การถ่ายภาพและการบันทึกภาพจากกล้อง
  • • เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทฯ
  • • แบบสำรวจความเห็นของลูกค้า การร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัทฯ
  • • เมื่อท่านเข้าร่วมในการแข่งขัน หรือกิจกรรมส่งเสริมการขาย การตลาดของบริษัทฯ
  • • เมื่อท่านทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏแก่สาธารณะอย่างชัดแจ้ง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลผ่านทาง Social Media ต่างๆ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะเลือกเก็บรวบรวมเฉพาะข้อมูลที่ท่านเลือกให้ปรากฏต่อสาธารณะเท่านั้น
  • • เมื่อบริษัทฯ ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลภายนอก เช่น บริษัทข้อมูลเครดิต หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นต้น

ในบางกรณี บริษัทฯ อาจร่วมกับบุคคลภายนอกเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เกี่ยวกับ
แบบสำรวจความเห็นของลูกค้า หรือเมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมแหล่งข้อมูลออนไลน์ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะแจ้งและเปิดโอกาสให้ท่านปฏิเสธการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวได้

  • 2.2 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
    ประเภทของ “ข้อมูลส่วนบุคคล” ของท่านที่บริษัทประมวลผลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแต่
    ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้
  • • ข้อมูลส่วนตัว: ชื่อ นามสกุล ขื่อเล่น เพศ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ สัญชาติ ภาพบนบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ ลายมือชื่อ ข้อมูลการยืนยันตัวตน ภาพถ่าย ภาพบันทึกจากทั้ง กล้องบันทึกวีดีโอ และกล้องวงจรปิด (CCTV) รวมถึงข้อมูลส่วนตัวที่ปรากฏอยู่บนเอกสารที่ราชการออกให้เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน เอกสารสำคัญของนิติบุคคลที่ออกให้โดย ทางราชการ (กรณีลูกค้าหรือ
    คู่สัญญาเป็นนิติบุคคล)
  • • ข้อมูลการติดต่อ: ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ไลน์ไอดี
  • • ข้อมูลทางการเงิน: ข้อมูลบัญชีธนาคาร ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน เลขที่บัตรเครดิต ชื่อผู้ถือบัตร
    รายละเอียดของบัตรเครดิต ข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน และข้อมูลเครดิต
  • • ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ไอพี แอดเดรส คุกกี้ บันทึกกิจกรรม ข้อมูลระบุตัวตน ข้อมูลตำแหน่งทางภูมิศาสตร์
  • • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) : ข้อมูลศาสนา ข้อมูลสุขภาพ และประวัติอาชญากรรม

บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวของท่านบางประเภท เพื่อใช้ในส่งมอบผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการให้แก่ท่าน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลประเภทนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายอนุญาตให้สามารถกระทำได้

  • 2.3 การปฏิเสธให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทฯ
    ในกรณีที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ บริษัทฯ อาจปฏิเสธการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

3. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

ในการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และฐานทางกฎหมาย โดยบริษัทฯ ได้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยใช้ฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
สินค้าและบริการ หรือการทำสัญญา
  • • เพื่อรับมอบ/ จัดส่งผลิตภัณฑ์ หรือเพื่อการรับ/ให้บริการ
  • • เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน
  • • เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่
  • • เพื่อบริหารจัดการการรับ/จ่ายชำระเงิน รวมถึงจัดการ
    ค่าใช้จ่าย
  • • เพื่อใช้ในการประมวลผลข้อมูลการชำระเงิน เรียกเก็บเงินหรือจ่ายเงิน รวมถึงวัตถุประสงค์ทางบัญชีและการจัดการทางบัญชี การสอบบัญชีของบริษัท หรือกรณีการติดตามทวงหนี้
  • • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น ประมวลรัษฎากร
  • • เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน การรายงานภายใน การวิเคราะห์ข้อมูล และการจัดการงานตามสัญญา
  • • ฐานสัญญา
  • • ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย
การดูแลลูกค้าและคู่สัญญา
  • • เพื่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการ
  • • เพื่อลงทะเบียนลูกค้า
  • • เพื่อตอบข้อร้องเรียน และหาแนวทางในการเยียวยา
    เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ
  • • เพื่อปฏิบัติตามคำร้องขอตามสิทธิที่ท่านมีต่อข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทฯ
  • • เพื่อบริหารความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ และท่าน หรือธุรกิจของท่าน
  • • เพื่อรักษา และทำให้ข้อมูลการติดต่อเป็นปัจจุบัน
  • • เพื่อจัดกิจกรรมต่างๆสำหรับท่าน
  • • เพื่อดำเนินธุรกรรม การปฏิบัติตามภาระผูกพัน
  • • ฐานสัญญา
  • • ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • • ฐานความยินยอม
  • • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
การพัฒนาธุรกิจ
  • • เพื่อระบุถึงประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีอยู่
  • • เพื่อวางแผนการพัฒนาสินค้า และบริการที่มีอยู่
  • • เพื่อทดสอบ วิเคราะห์ และพัฒนาสินค้า และบริการ
    ใหม่ ๆ
  • • เพื่อพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ ในการ ตอบสนองความต้องการของท่าน และพัฒนาธุรกิจของบริษัทฯ
  • • เพื่อทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ความต้องการ และเพื่อทำการประเมินและสำรวจความพึงพอใจของท่าน
  • • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
การบริหารความมั่นคง ความปลอดภัย และความเสี่ยง
  • • เพื่อป้องกันอาชญากรรม และบริหารจัดการความปลอดภัยของบริษัทฯ เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดภายใน และโดยรอบบริษัทฯ ซึ่งอาจมีการเก็บภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียงของท่าน
  • • เพื่อบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ และท่าน
  • • เพื่อจัดเก็บเอกสารสำหรับการตรวจสอบอ้างอิง
  • • เพื่อสืบหา ตรวจสอบ รายงาน และแสวงหาแนวทางในการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน
  • • เพื่อการตรวจสอบกิจการภายในของบริษัทฯ และท่าน
  • • เพื่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และการตรวจสอบธุรกิจ
    ของบริษัทฯ และท่าน ทั้งภายในและภายนอก
  • • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  • • ฐานปฏิบัติตามกฎหมาย
  • • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม
การส่งเสริมการขายและการตลาด
  • • เพื่อสำรวจผลิตภัณฑ์ และ/หรือ บริการของบริษัทฯ ที่ท่านอาจสนใจ
  • • เพื่อสื่อสารกับท่านเกี่ยวกับกิจกรรมส่งเสริมการขาย ทางการตลาดที่วิเคราะห์แล้วว่าตรงกับความต้องการของท่านผ่านวิธีการใด ๆ รวมถึงอีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความทางโทรศัพท์ Social Media จดหมาย ไลน์ หรือสื่อสาร
    ต่อหน้า
  • • เพื่อพัฒนากิจกรรมทางการตลาด
  • • ฐานความยินยอม
  • • ฐานประโยชน์อันชอบธรรม

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่บุคคลภายนอก โดยให้บุคคลเหล่านี้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อเป็นไปตามความเหมาะสมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ หรือตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย หรือเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามสัญญา หรือตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายกรณีที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  • 4.1 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคล และ/หรือนิติบุคคลอื่น ผู้รับเหมาช่วง นายหน้า หรือ
    ผู้ให้บริการใด ๆ ที่ทำงานให้กับบริษัทฯ หรือให้บริการแก่บริษัทฯ ทั้งนี้รวมถึงผู้รับเหมาช่วง ผู้ประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคล ผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงานของบุคคลดังกล่าว
  • • ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการดูแลผลประโยชน์ใด ๆ ของท่านและบริษัทฯ เช่น ผู้แทนจำหน่าย บริษัทประกันภัย ผู้ประสานงานในการอบรมสัมมนา จัดประชุม หรือบุคคลภายนอกที่บริษัทฯ ร่วมงานด้วยในการให้บริการอันเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการของบริษัทฯ
  • • คนกลาง บุคคลผู้ติดต่อ และตัวแทนของท่านและบริษัทฯ
  • • สถาบันทางการเงิน และผู้ให้บริการการรับ/จ่ายเงิน
  • • บุคคล หรือบริษัทใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างบริษัท การควบรวมกิจการ หรือเข้าถือครองกิจการที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้น โดยรวมถึงการโอนสิทธิ หรือหน้าที่ใด ๆ ซึ่งบริษัทฯ มีอยู่ภายใต้สัญญาระหว่างบริษัทฯ และท่าน
  • • หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย รัฐบาล ศาล หน่วยงานระงับข้อพิพาท หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแล ผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทฯ ผู้ตรวจสอบบัญชี และบุคคลใด ๆ ซึ่งแต่งตั้ง หรือร้องขอโดยผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัทฯ ให้ทำการตรวจสอบกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัทฯ
  • • บุคคลอื่นใดซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม
  • • หน่วยงานป้องกันการทุจริตซึ่งใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อสืบหา และป้องกันการทุจริต และอาชญากรรมทางการเงินอื่น ๆ
  • • บุคคลใด ๆ ที่ออกคำสั่ง หรือบริหารจัดการบัญชีของท่าน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในนามของท่าน (เช่น ผู้รับมอบอำนาจ ทนายความ เป็นต้น)
  • • บุคคลใด ๆ ที่บริษัทฯ ได้รับคำสั่งจากท่านให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าว
  • 4.2 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทฯ อาจต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เพื่อจัดเก็บ และ/หรือ ประมวลผลในการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างท่านกับบริษัทฯ หรือเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฏหมาย โดยบริษัทฯ จะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และจะกำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

5. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ใน
การประมวลผลข้อมูลดังกล่าว หรือตามระยะเวลาที่กฏหมายกำหนด ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ คู่มือต่างๆ ในเรื่องการจัดเก็บ และทำลายเอกสารต่างๆ ของบริษัทฯ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บแล้ว บริษัทฯ จะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นทางกฎหมาย หรือเหตุผลทางเทคนิครองรับ บริษัทฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานกว่าระยะเวลานานกว่านั้น

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตาม พ.ร.บ.ฯ โดยบริษัทฯ จะเคารพสิทธิของท่านและ
จะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่าน

บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการ
ความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

  • 6.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา เว้นแต่การขอถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป หากบริษัทฯ สามารถใช้ฐานอื่นใน
    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • 6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอทราบ และขอรับสำเนาข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทฯ รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้
    ความยินยอม
  • 6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • 6.4 สิทธิในการขอลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิใน การคัดค้านในข้อถัดไป อย่างไรก็ตามการใช้สิทธินี้จะต้องไม่เป็น
    การใช้สิทธิเพื่อขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด โดยบริษัทฯ จะพิจารณาแต่ละคำขอด้วย
    ความระมัดระวังตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • 6.5 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ประมวลผลภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้าน
    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากบริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
  • 6.6 สิทธิในการขอให้มีการระงับการประมวลผล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้
    ถูกต้อง หรือเมื่อท่าน ร้องขอให้บริษัทฯ พิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่าน
  • 6.7 สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูล: ในบางกรณีท่านสามารถขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัทฯ และ
    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพัน
    ภายใต้สัญญาได้
  • 6.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า บริษัทฯ หรือพนักงานของบริษัทฯ
    หรือผู้ให้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ฯ หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.ฯ
    ดังกล่าว

ท่านอาจใช้สิทธิข้างตนของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 9 ด้านล่าง

คำขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและ บริษัทฯ
จะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายในระยะเวลาที่เหมาะสมและไม่เกิน
ระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่ได้รับคำขอ ในบางกรณี บริษัทฯ อาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมี
ความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่าน
ทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ

ในกรณีที่ท่านขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย จำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ระงับการใช้ชั่วคราว การแปลงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือถอน
ความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามข้อผูกพันในด้านนิติกรรมสัญญา หรือการทำธุรกรรม การจัดหาผลิตภัณฑ์ การให้บริการกับท่านได้ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษา หรือสอบถามผลกระทบก่อนดำเนินการคำขอใช้สิทธิ

นอกจากนี้คำขอใช้สิทธิใดๆ ข้างต้นนี้อาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอาจมีบางกรณีที่ บริษัทฯ สามารถปฏิเสธคำขอได้โดยชอบ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล

7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัทฯ
จะตรวจสอบ ใช้ และทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางบริหารจัดการ ทางกายภาพ และทางเทคนิคที่เหมาะสมอยู่เสมอในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผย นำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือเข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่มีสิทธิ หรือไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ

8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ได้ โดยหากมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทฯจะแจ้งให้ทราบบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ และตามช่องทางอื่นตามความเหมาะสมต่อไป

9. การติดต่อกับบริษัทฯ

หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทฯ เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน และ/หรือประสานงานกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่ :

บริษัท เจวีซีเคนวูด (ประเทศไทย) จำกัด
240/33, 240/35 อาคารอโยธยาทาวเวอร์ ชั้น 18
ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
กรุงเทพมหานคร 10310
หมายเลขโทรศัพท์ 02 274 1770
อีเมล์ DPO@th.jvckenwood.com

ประกาศความเป็นส่วนตัว
สำหรับผู้สมัครงาน

บริษัท เจวีซีเคนวูด (ประเทศไทย) จำกัด (“บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นส่วนตัวและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พ.ร.บ.ฯ”) และฉบับปรับปรุงแก้ไขตามที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎหมายและกฎระเบียบอื่น ๆ ที่จะประกาศใช้ภายใต้ พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงรายละเอียดของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในขั้นตอนการสรรหาบุคลากร และงานต่างๆ อันเกี่ยวกับการสรรหาว่าจ้างบุคลากรเพื่อ
เข้าร่วมงานกับบริษัทฯ

ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ "ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง "ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวบุคคลหรือที่ทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ตามที่ระบุด้านล่าง

1. ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เราเก็บรวบรวม

ส่วนหนึ่งในขั้นตอนของการสรรหาบุคลากร บริษัทฯ อาจรวบรวมหรือรับข้อมูลประเภทต่อไปนี้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับท่านในระหว่างการสรรหาและขั้นตอนการสัมภาษณ์งานซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของใบสมัครออนไลน์ และ/หรือผ่านช่องทางอื่น ๆ เช่น บอร์ดสมัครงาน เว็บไซต์ของบริษัทฯ ผ่านบริษัทรับจัดหางาน สื่อ Social Media งานนัดพบแรงงาน เป็นต้น หรือบริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก
แหล่งอื่นๆ หรือผ่านมาทางบริษัทอื่น ผู้รับจ้างที่ให้บริการประวัติผู้สมัครงาน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ประเภทของข้อมูลที่รวบรวมจะขึ้นอยู่กับลักษณะการจ้างงานหรือบริการกับบริษัทฯ ทั้งนี้บริษัทฯ เก็บรวบรวม และใช้ข้อมูล
ส่วนบุคคลที่จำเป็น

  • 1.1 รายละเอียดส่วนบุคคล: เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อเต็ม ชื่อเล่น สถานภาพทางการสมรส วันเดือนปีเกิด สถานที่เกิด อายุ เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก การรับราชการทหาร ภาพถ่าย สัญชาติ ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรที่ออกให้โดยทางราชการ (เช่น บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่และใบอนุญาตอื่นๆ และ/หรือใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตผู้สอบบัญชี และใบอนุญาตทนายความ เป็นต้น) สมุดทะเบียนรถยนต์ บัญชีสื่อสังคม ลายเซ็น RESUME CV ประวัติการผ่านงาน ใบสมัคร บัญชีธนาคาร และสิ่งตัวระบุตัวตนอื่นๆ
  • 1.2 ข้อมูลการติดต่อ: เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรศัพท์บ้าน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน อีเมล ไลน์ไอดี ข้อมูลในทะเบียนบ้าน ข้อมูลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินและข้อมูลอื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน
  • 1.3 ข้อมูลเกี่ยวกับงานของท่าน: เช่น ประสบการณ์การทำงานและการจ้างงานก่อนหน้า (ซึ่งรวมถึงตำแหน่ง แผนกและประวัติตำแหน่งและเงินเดือนและผลประโยชน์จากการจ้างงานก่อนหน้า) พฤติกรรมการทำงาน ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรม ใบรับรองการผ่านการฝึกอบรม และคุณสมบัติต่างๆ

"ข้อมูลอ่อนไหว" หมายถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่จำแนกตามกฎหมายว่าเป็นข้อมูลอ่อนไหว บริษัทฯ
จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลอ่อนไหวและโอนไปต่างประเทศ หากบริษัทฯ ได้รับความยินยอมอย่างชัดเจนจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้เท่านั้น

บริษัทฯ ยังอาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือถ่ายโอนข้อมูลอ่อนไหวเกี่ยวกับท่าน ได้แก่ 1) ข้อมูลสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ (เช่นข้อมูลการตรวจรักษา ผลการทดสอบยาและผลการทดสอบโรคพาหะ
บางโรค หรือผลการทดสอบเอชไอวี ทั้งนี้ตามรายการตรวจสุขภาพที่กำหนดไว้) 2) ประวัติอาชญากรรม และ
3) ข้อมูลอ่อนไหวในเอกสารแสดงตัวตนที่ออกให้โดยหน่วยงานราชการ เช่น ศาสนาที่นับถือ

หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวของท่าน ญาติใกล้ชิด ผู้อ้างอิง และ/หรือผู้มีความสัมพันธ์อื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งสิทธิของเขาที่มีตามประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ที่ปรับใช้กับเขา ท่านต้องรับผิดชอบในการขอความยินยอมที่จำเป็นจากบุคคลเหล่านั้นและทำให้มั่นใจว่าท่านมีสิทธิที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นกับบริษัทฯ

2. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  • 2.1. วัตถุประสงค์ที่ท่านให้ความยินยอม
  • ข้อมูลสุขภาพและการแพทย์: เช่น สภาวะสุขภาพเรื้อรังหรือประวัติทางการแพทย์และข้อมูลที่มีอยู่ในใบรับรองแพทย์/ใบรับรองแพทย์เพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินความเหมาะสมของผู้สมัคร ข้อมูลเกี่ยวกับความพิการเพื่อวัตถุประสงค์ในการสรรหาบุคลากร
  • ข้อมูลประวัติอาชญากรรม: บริษัทฯ ดำเนินการจัดทำหรือขอรับประวัติอาชญากรรม และ/หรือการตรวจสอบประวัติที่เกี่ยวข้องกับท่านตามสมควรกับหน้าที่รับผิดชอบของท่านเพื่อประโยชน์ในการ
    คัดเลือกและการสรรหาบุคลากร
  • ข้อมูลในเอกสารแสดงตัวตนที่ทางราชการออกให้: เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องและการจัดสรรสวัสดิการ (เช่น การเตรียมอาหาร การจัดให้มีวันหยุดทางศาสนา
    การวางแผนการใช้กำลังคน และการจัดการหาสถานที่รองรับในที่ทำงาน)
  • 2.2. วัตถุประสงค์และเหตุทางกฎหมายอื่นๆ สำหรับบริษัทฯ ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ ยังอาจอาศัยการอ้างอิงตามกฎหมาย อันได้แก่ (1) ฐานสัญญาเป็นการกระทำเพื่อการเริ่มต้นหรือปฏิบัติตามข้อตกลงการจ้างแรงงานระหว่างบริษัทฯ กับท่านหากท่านเป็นพนักงาน หรือสัญญาจ้างทำของหากท่านเป็นคนทำงาน (2) ฐานการปฏิบัติตามกฏหมาย เป็นการกระทำเพื่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ความรับผิดตามกฎหมายของบริษัทฯ (3) ฐานประโยชน์อันชอบธรรม เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์โดยชอบของบริษัทฯ และประโยชน์โดยชอบของบุคคลภายนอก (4) ฐานการระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เป็นการกระทำเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

บริษัทฯ อาจรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

เอกสารข้อมูลที่รวบรวมจากผู้สมัครงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการสมัครงาน การรับรองและ
การตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อการติดต่อ การประเมินความเหมาะสมของผู้สมัคร การตัดสินใจจ้าง การกำหนด
เงินเดือนและข้อมูลเบื้องต้นอื่นๆ สำหรับทำสัญญาการจ้างงานใหม่ ขั้นตอนการปฐมนิเทศประเมินผู้สมัคร ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกสำหรับคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งงาน การตรวจสอบประวัติ (ถ้าท่านได้รับการเสนอตำแหน่งกับบริษัทฯ ) และชื่อผู้ติดต่อที่ท่านกำหนดในกรณีฉุกเฉิน

3. การเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกซึ่งเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ของประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ บุคคลภายนอกเหล่านี้อาจอยู่ในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทย โดยท่านสามารถเข้าไปดูประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ ซึ่งท่านเองก็จะได้รับการปฏิบัติภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

  • 3.1 ผู้ให้บริการ และคู่ค้าของบริษัทฯ
    บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ คู่ค้า และผู้ให้บริการ ดังต่อไปนี้ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง (1) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ และผู้ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (2) ตัวแทนจัดหางานและผู้ให้บริการงานด้านบุคคล (3) ผู้แทนจำหน่าย
  • 3.2 บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด
    ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจะจำเป็นที่จะต้องเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับ ซึ่งรวมถึง การปฏิบัติตามคำสั่งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล
    เจ้าพนักงาน หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่บริษัทฯ เชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับทางกฎหมาย หรือเพื่อการปกป้องสิทธิของบริษัทฯ สิทธิของบุคคลอื่น หรือเพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรมหรือสำนักงานบังคับคดี เป็นต้น

4. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือ Server ที่อยู่ใน
ต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรือไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้บริษัทฯ จะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ เพื่อทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หรือกรณีอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านเพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

5. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้รับมาและเพื่อปฏิบัติตามข้อผูกพัน ข้อตกลง หรือสัญญา และข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บไว้ในช่วงเวลาของการจ้างงานหรือความสัมพันธ์ในการให้บริการของท่าน รวมถึงหลังจากนั้นตราบใดที่ยังมีภาระผูกพันตามกฎหมายหรือการเรียกร้องที่อาจเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ในการจ้างงาน
ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ คู่มือต่างๆ ในเรื่องการจัดเก็บ และทำลายเอกสารต่างๆ ของบริษัทฯ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บแล้ว บริษัทฯ จะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตาม พ.ร.บ.ฯ โดยบริษัทฯ จะเคารพสิทธิของท่านและ
จะดำเนินการตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ หรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลของท่าน

บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องขอข้อมูลบางประการจากท่านเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของท่านและรับรองสิทธิของท่านในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (หรือเพื่อใช้สิทธิอื่นใด) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการ
ความปลอดภัยที่จะทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะไม่ถูกเปิดเผยต่อบุคคลที่ไม่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

  • 6.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ในกรณีที่บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมที่จะให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา เว้นแต่การขอถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป หากบริษัทฯ สามารถใช้ฐานอื่นใน
    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • 6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิในการขอทราบ และขอรับสำเนาข้อมูล
    ส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทฯ รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้
    ความยินยอม
  • 6.3 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้
    ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • 6.4 สิทธิในการขอลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล: ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ในกรณีที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรให้บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป โดยท่านสามารถใช้สิทธิในการขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลนี้ควบคู่ไปกับสิทธิในการคัดค้านใน ข้อถัดไป อย่างไรก็ตามการใช้สิทธินี้จะต้อง
    ไม่เป็นการใช้สิทธิเพื่อขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด โดยบริษัทฯ จะพิจารณาแต่ละคำขอด้วย
    ความระมัดระวังตามบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • 6.5 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ ประมวลผลภายใต้ฐานผลประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้าน
    การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากบริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
  • 6.6 สิทธิในการขอให้มีการระงับการประมวลผล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราว เช่น เมื่อท่านต้องการให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
    ให้ถูกต้อง หรือเมื่อท่านร้องขอให้บริษัทฯ พิสูจน์เหตุผล หรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • 6.7 สิทธิในการส่งหรือโอนย้ายข้อมูล: ในบางกรณีท่านสามารถขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สามารถใช้งานโดยทั่วไปได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังผู้ควบคุมข้อมูล
    ส่วนบุคคลอื่น สิทธิดังกล่าวนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านส่งมอบให้แก่บริษัทฯ และการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้กระทำโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประมวลผลเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามภาระข้อผูกพัน
    ภายใต้สัญญาได้
  • 6.8 สิทธิในการยื่นข้อร้องเรียน: ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่ท่านเห็นว่า บริษัทฯ หรือพนักงานของบริษัทฯ หรือผู้ให้บริการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ฯ หรือประกาศอื่น ๆ ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.ฯ
    ดังกล่าว

ท่านอาจใช้สิทธิข้างตนของท่านได้ตลอดเวลา โดยติดต่อบริษัทฯ ผ่านทางช่องทางการติดต่อตามที่ระบุไว้ในข้อ 9 ด้านล่าง

คำขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทฯ
จะใช้ความพยายามในการตอบกลับคำขอที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดภายในระยะเวลาที่เหมาะสมและไม่เกิน
ระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่ได้รับคำขอ ในบางกรณี บริษัทฯ อาจใช้เวลามากกว่า 30 วัน หากคำขอของท่านมีความซับซ้อน หรือท่านยื่นคำขอเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าหนึ่งคำขอ ในกรณีดังกล่าว บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่าน
ทราบและจะทำการแจ้งสถานะของคำขอให้ท่านทราบอยู่เสมอ

ในกรณีที่ท่านขอให้บริษัทฯ ลบ ทำลาย จำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ระงับการใช้ชั่วคราว การแปลงข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือถอน
ความยินยอม อาจทำให้เกิดข้อจำกัดกับบริษัทฯ ในการปฏิบัติตามข้อผูกพันในด้านนิติกรรมสัญญา หรือการทำธุรกรรม การจัดหาผลิตภัณฑ์ การให้บริการกับท่านได้ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของท่าน จึงควรศึกษา หรือสอบถามผลกระทบก่อนดำเนินการ คำขอใช้สิทธิ

นอกจากนี้คำขอใช้สิทธิใดๆ ข้างต้นนี้อาจถูกจำกัดโดยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และอาจมีบางกรณีที่ บริษัทฯ สามารถปฏิเสธคำขอได้โดยชอบ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล

7. ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง บริษัทฯ
จะตรวจสอบ ใช้ และทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยขององค์กร ทั้งทางบริหารจัดการ ทางกายภาพ และ
ทางเทคนิคที่เหมาะสมอยู่เสมอในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูล
ส่วนบุคคลของท่านจะไม่สูญหาย ถูกทำลายโดยไม่ตั้งใจ ถูกแก้ไข ถูกเปิดเผย นำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ หรือเข้าถึงโดยบุคคลอื่นที่ไม่มีสิทธิ หรือไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทฯ

8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

บริษัทฯ อาจมีการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ได้ โดยหากมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ และตามช่องทางอื่นตามความเหมาะสมต่อไป

9. การติดต่อกับบริษัทฯ

หากท่านมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทฯ เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอ
ของท่าน และ/หรือประสานงานกับเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ที่ :

บริษัท เจวีซีเคนวูด (ประเทศไทย) จำกัด
240/33, 240/35 อาคารอโยธยาทาวเวอร์ ชั้น 18
ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง
กรุงเทพมหานคร 10310
หมายเลขโทรศัพท์ 02 274 1770
อีเมล์ DPO@th.jvckenwood.com